ยูเอ็นประณามการสลายม็อบนองเลือดที่มัณฑะเลย์

เลขาธิการสหประชาชาติและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกมาประณามการที่ตำรวจเมียนมาสลายการชุมนุมของประชาชนที่เมืองมัณฑะเลย์ “ด้วยกระสุนจริง” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เผยแพร่แถลงการณ์ของนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ประณามกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา “ใช้กำลังและอาวุธ” สลายการชุมนุมของประชาชน ซึ่งออกมารวมตัวต่อต้านรัฐบาลทหาร ที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย “เป็นสิ่งที่ไม่อาจรับได้” เนื่องจากพลเมืองมีสิทธิและเสรีภาพ ที่จะชุมนุมอย่างสันติ

ขณะเดียวกัน กูเตร์เรสย้ำให้ทุกภาคส่วนในเมียนมายอมรับผลการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ปีที่แล้ว และการถ่ายโอนอำนาจให้กับคืนสู่การบริหารโดยรัฐบาลพลเรือน ด้านกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ และสหภาพยุโรป ( อียู ) ออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐ หรือรัฐบาลทหารเมียนมา และสำนักงานตำรวจของเมียนมา ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ การควบคุมสถานการณ์ประท้วงของประชาชน โดยตำรวจที่เมืองมัณฑะเลย์ ลุกลามบานปลายเป็น “วันนองเลือดที่สุด” ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ ของการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยประชาชน เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นรายงานตามข้อมูลจากแพทย์อาสา ว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองคนเป็นชาย “ถูกยิงด้วยกระสุนจริง” โดยคนหนึ่งถูกยิงที่ศีรษะ ส่วนอีกคนถูกยิงบริเวณหน้าอก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 22 คน

การสลายการชุมนุมที่เมืองมัณฑะเลย์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงทางการเมืองในเมียนมาครั้งนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตคนแรก คือ น.ส.เมียะ เทวต เทวต ข่าย วัย 20 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ ระหว่างร่วมชุมนุมที่กรุงเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา